ข่าว
คณะอาจารย์จากภาควิชาเทคโนโลยี วิทยาลัยพัฒนาชุมชนเมือง มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
เข้าศึกษาดูงาน บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด
มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เข้าศึกษาดูงาน KT ด้านการพัฒนาเมือง
คณะอาจารย์จากภาควิชาเทคโนโลยี วิทยาลัยพัฒนาชุมชนเมือง มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เข้าศึกษาดูงาน บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เนื่องจากเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเมือง ด้านระบบขนส่งมวลชน ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านเทคโนโลยี
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
เป็นประธานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564
บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด
รถไฟฟ้าไร้คนขับสายแรกของประเทศไทย เปิดให้บริการแล้ว วิ่งฟรี 1 เดือน ถึง 15 ม.ค. 64
เชื่อมต่อทุกโหมดการเดินทาง “ล้อ ราง เรือ” เปิดพื้นที่เมืองใหม่กรุงเทพมหานคร ย่านฝั่งธนบุรี
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการเดินรถโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง สายสีทอง ระยะที่ 1 (สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี-สำนักงานเขตคลองสาน) ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร โดยมี พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ดร.เกรียงพล พัฒนรัฐ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และคณะผู้บริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอสซี) ให้การต้อนรับ
พลตำรวจเอกอัศวิน กล่าวว่า การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในเมืองมหานครเพื่อให้การเดินทางของประชาชนได้รับความสะดวกและลดปัญหาต่าง ๆ อันเกิดจากการจราจรติดขัด ที่ผ่านมาได้ศึกษาความเหมาะสมโครงการถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ให้ตอบสนองการต่อการพัฒนาเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่ย่านเขตคลองสาน เขตธนบุรี มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ของพื้นที่การค้าการลงทุน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการมากมาย จึงได้ศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง โดยมีรูปแบบการลงทุนที่ไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ โดยกรุงเทพธนาคมได้ให้สิทธิพื้นที่โฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้าแก่เอกชน เป็นระยะเวลา 30 ปี และนำรายได้ดังกล่าวมาลงทุนก่อสร้าง โดยทรัพย์สินในโครงการทั้งหมดเป็นของกรุงเทพมหานครตั้งแต่เริ่มให้บริการ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานร่วมกันระหว่างรัฐและเอกชน โดยประโยชน์สูงสุดตกแก่ประชาชนลดปัญหาการจราจรแออัด เพิ่มทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกสบาย สร้างแหล่งงาน แหล่งท่องเที่ยว และเสริมสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่
พลตำรวจเอกอัศวิน กล่าวด้วยว่า รถไฟฟ้าสายสีทองแม้จะมีระยะทางสั้นเพียง 1.8 กิโลเมตร แต่ถือเป็นระบบรองที่มีประสิทธิภาพ เพราะเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนในทุกโหมด ครบทั้งล้อ ราง เรือ โดยเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม ที่สถานีกรุงธนบุรีและในอนาคตจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ที่สถานีประชาธิปก และสายสีแดง (หัวลำโพง-มหาชัย) ที่สถานีคลองสาน นอกจากนี้ยังเชื่อมการเดินทางทางน้ำ สำหรับประชาชนที่จะใช้บริการเรือข้ามฟากและเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าเรือคลองสาน และท่าเรือไอคอนสยาม โดยจะให้บริการฟรี1เดือน วันนี้ถึง15 ม.ค.64 หลังจากนั้นจะเก็บค่าโดยสารคงที่ 15 บาท ตลอดสาย
ด้าน ดร.เกรียงพล พัฒนรัฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) กล่าวว่า กรุงเทพธนาคม ได้เลือกใช้รูปแบบรถไฟฟ้าสายสีทอง เป็นระบบนำทางอัตโนมัติ Automated People Mover (APM) ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือเป็นรถไฟฟ้าที่ใช้ล้อยาง มีขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพในการขนส่งผู้โดยสารในพื้นที่เชื่อมต่อเข้าสู่ระบบหลัก โครงสร้างขนาดเล็กทำให้ก่อสร้างได้เร็วใช้เวลาประมาณ 2 ปี ไม่ต้องมีการเวนคืนที่ดิน มีช่วงรัศมีทางโค้งที่แคบที่สุดบริเวณแยกเป็บซี่ เพียง 32.70 เมตรเท่านั้น และแม้แต่พื้นที่ศูนย์ซ่อมบำรุงก็สามารถก่อสร้างได้บนเขตทางสาธารณะ โดยที่ระบบยังคงความสะดวกสบาย ความรวดเร็วในการเดินทางและความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากล ทั้งในตัวรถและภายในสถานี
ดร.เกรียงพล กล่าวต่อว่า เนื่องจากเป็นรถไฟฟ้าที่ไม่มีคนขับประชาชนอาจจะยังไม่คุ้นชิน ช่วงแรกที่เปิดให้บริการ ผู้เดินรถจะจัดเจ้าหน้าที่ขึ้นประจำรถไปพร้อมกับผู้โดยสาร ซึ่งในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาได้มีการทดสอบระบบจนมีความมั่นใจในความปลอดภัย ทั้งนี้ได้กำชับเรื่องการให้ความรู้แก่ผู้โดยสารเกี่ยวกับการปฏิบัติต่างๆ ภายในตัวรถเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับระบบ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบดูแลผ่านกล้องวงจรปิดและสื่อสารจากศูนย์ควบคุมได้ตลอดเวลาหากเกิดเหตุฉุกเฉิน สำหรับการปรับปรุงและคืนผิวถนน ขณะนี้ได้คืนผิวถนนกรุงธนบุรีและถนนสมเด็จเจ้าพระยาเรียบร้อยแล้ว ส่วนถนนเจริญนครบริษัทได้ประสานกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการประปานครหลวง (กปน.) ที่อยู่ระหว่างขุดวางท่อใต้ดิน ได้รับทราบว่าจะทยอยคืนผิวถนนให้ตั้งแต่มกราคมไปจนถึงเสร็จสิ้นในเดือนเมษายน 2564
สำหรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีทอง เริ่มต้นจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสกรุงธนบุรี ไปตามแนวถนนเจริญนครผ่านแยกคลองสาน ไปสิ้นสุดที่ถนนสมเด็จเจ้าพระยาที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลตากสิน มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีกรุงธนบุรี สถานีเจริญนคร และสถานีคลองสาน ให้บริการด้วยรถไฟฟ้ารุ่น Bombardier Innovia APM 300 จำนวน 3 ขบวน ขบวนละ 2 ตู้ ความจุผู้โดยสาร 138 คน/ตู้ มีที่จอดรถวีลแชร์ตู้ละ1 คัน ตู้รถไฟฟ้ามีความกว้าง 2.89 เมตร ความยาว 12.75 เมตร ความสูงของรถ 3.5 เมตร สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 80 กม./ชม. คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 42,000 เที่ยว-คนต่อวัน มีความถี่ในช่วงเวลาเร่งด่วน 5-6นาที และเปิดให้บริการ 06.00-24.00 น.เหมือนบีทีเอส โดยในวันนี้หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
ดีเดย์ 27 พ.ย.นี้ กองเรือโดยสารใช้พลังงานไฟฟ้า (EV)
พร้อมประจำการในคลองผดุงกรุงเกษมครบ 7 ลำ
เป็นเรือโดยสารใช้พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซนต์ที่ให้บริการเป็น fleet แรกของประเทศ
ดีเดย์ 27 พ.ย.นี้ กองเรือโดยสารใช้พลังงานไฟฟ้า (EV)พร้อมประจำการในคลองผดุงกรุงเกษมครบ 7 ลำ เป็นเรือโดยสารใช้พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซนต์ที่ให้บริการเป็น fleet แรกของประเทศ
(12 พ.ย.63) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ส่งเสริมการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางน้ำ โดยเปิดให้บริการเรือโดยสารในคลองภาษีเจริญในช่วงที่ผ่านมา และในปัจจุบันกทม.ก็ได้พัฒนาเส้นทางการเดินเรือโดยสารเพิ่มอีก 1 เส้นทาง โดยได้ว่าจ้าง บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของกทม. ดำเนินโครงการพัฒนาระบบการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม โดยจัดหาเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ( Electric Vehicle : EV) พร้อมระบบโซลาร์เซลล์ จำนวน 8 ลำ เพื่อให้บริการประชาชนเต็มรูปแบบ โดยได้ต่อเรือใหม่เพิ่มอีก 7 ลำ หลังจากที่ได้นำเรือใช้พลังงานไฟฟ้าต้นแบบ 1 ลำทดลองวิ่งให้บริการ ความคืบหน้าล่าสุดขณะนี้การต่อเรือลำใหม่ทั้ง 7 ลำ แล้วเสร็จตามแผน และเตรียมนำมาให้บริการประชาชนเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.63 นี้เป็นต้นไป
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธาณะให้มากขึ้น ด้วยการเดินทางหลากหลายรูปแบบ ทั้งรถโดยสารประจำทาง (ล้อ) รถไฟฟ้า (ราง) และทางน้ำ (เรือ) ซึ่งการเดินทางโดยเรือในคลองผดุงกรุงเกษมจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ที่สำคัญโครงการนี้ยังถือเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งสายแรกของประเทศ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง เพราะเรือทุกลำใช้พลังงานสะอาด ปลอดจากมลพิษทั้งเสียง ฝุ่น ควัน ส่งเสริมการรักษาสภาพแวดล้อมของเมืองในเส้นทางคลองสายประวัติศาสตร์ และยังส่งผลดีต่อสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำเรือ ผู้โดยสารและชุมชนที่อยู่อาศัยโดยรอบเส้นทางให้บริการอีกด้วย ”
นายประภาส เหลืองศิรินภา รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวว่า นอกจากการพัฒนาเส้นทางเดินเรือเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนแล้ว สจส.อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่เพื่อจัดทำเส้นทางจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวเลียบคลองผดุงกรุงเกษม โดยสามารถปั่นจักรยานจากสถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีสถานีหัวลำโพง และจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีราชเทวี มายังทางปั่นเลียบคลองผดุงกรุงเกษมเชื่อมเข้าสู่เกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งในเส้นทางมีแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนและย่านตลาดเก่าแก่ อย่างถนนเยาวราช โบ๊เบ๊ ตลาดสะพานขาว ตลาดมหานาค ตลาดนางเลิ้ง ตลาดเทเวศร์ วัดและวัง เช่น วัดเทพศิรินทราวาส วัดมกุฎกษัตริยาราม วัดเทวราชกุญชร พระตำหนักใหญ่พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระจันทรบุรีนฤนาถ (วังเทเวศร์) โดยจะนำผลการสำรวจมาดำเนินการจัดทำเส้นทางจักรยานต่อไป
ด้านนายเกรียงพล พัฒนรัฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กล่าวว่า เรือที่ต่อใหม่ทั้ง 7 ลำ เมื่อนำมาให้บริการจะส่งผลให้สามารถเพิ่มรอบเรือได้มากขึ้น เป็นทุก ๆ 15 นาที จากปัจจุบันที่ใช้เรือต้นแบบและเรือดีเซลรวม 2 ลำให้บริการได้วันละ 14 เที่ยว จะเพิ่มเที่ยวให้บริการได้ถึงวันละ 39 เที่ยว เริ่มตั้งแต่ 06.00 – 19.00 น. ทั้งนี้ในระหว่างวันจะปรับให้สอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารแต่ละช่วงเวลา สำหรับวันเสาร์อาทิตย์รอบการให้บริการจะอยู่ที่วันละ 23 เที่ยว
ทั้งนี้คุณสมบัติของเรือที่นำมาให้บริการเป็นเรือโดยสารที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซนต์ทุกลำ หลังคาของเรือมีแผงโซล่าเซลล์ 12 แผง ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ในระบบไฟฟ้าส่องสว่างภายในเรือ และยังเป็นพลังงานสำรองในการขับเคลื่อนเรือ เรือทุกลำจะติดตั้งระบบจีพีเอส ติดตามตำแหน่งเรือ โดยมีศูนย์ควบคุมที่คอยติดตามตรวจสอบตลอดช่วงเวลาที่ให้บริการประชาชน นอกจากนี้ได้ปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ ให้ดีขึ้น โดยออกแบบที่นั่งและทางเดินในเรือให้สะดวกสบายขึ้น มีลายกันลื่นตลอดพื้นเรือ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร บรรทุกได้ 30 ที่นั่ง และยังจัดพื้นที่รองรับผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ได้ 1 คัน ส่งเสริมการเดินทางที่ทั่วถึงเท่าเทียมเพื่อคนทั้งมวล ขนาดเรือยาว 9.9 ม. กว้าง 2.98 ม. น้ำหนัก 5.98 ตัน ความเร็วสูงสุด 17 กม./ชม. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ความเร็วสูงสุด 15 กม./ชม. โดยชั่วโมงการทำงานจากการชาร์จแบตเต็ม 1 ครั้ง สามารถให้บริการได้นาน 4 ชั่วโมง
ผู้แทนจากหอการค้าเยอรมัน-ไทย เข้าเยี่ยม บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด
ผู้แทนจากหอการค้าเยอรมัน-ไทย เข้าเยี่ยม บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด
ดร.เอกรินทร์ วาสนาส่ง รองกรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มยุทธศาสตร์และพัฒนาเมือง ให้การต้อนรับผู้แทนจากหอการค้าเยอรมัน-ไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยม บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และร่วมการประชุม Video Conference ร่วมกับผู้แทนจาก 7 บริษัท จากประเทศเยอรมัน พร้อมรับฟังข้อมูลโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้อง Smart Mobility และ Intelligent Transportation System เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนและเทคโนโลยีนำไปสู่การพัฒนาประเทศให้เป็นเมืองอัจฉริยะในอนาคต ที่กำลังจะประชุมในวันพฤหัสที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุม 2 บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด
บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ประชุมการตรวจราชการเฉพาะพื้นที่
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 รอบที่ 2 ร่วมกับผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานคร
ณ ห้องประชุมผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด
พร้อมเปิดเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสไปคูคต ธ.ค.63 นี้ เชื่อมต่อการเดินทางระบบราง 3 จังหวัด สมุทรปราการ กรุงเทพฯ ปทุมธานี ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
พร้อมเปิดเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสไปคูคต ธ.ค.63 นี้ เชื่อมต่อการเดินทางระบบราง 3 จังหวัด สมุทรปราการ กรุงเทพฯ ปทุมธานี ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
(7 ต.ค.63) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค.63 บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการเปิดเดินไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ได้นำขบวนรถไฟฟ้าวิ่งทดสอบครั้งแรก (First Train In) บนเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) เพิ่มเติมอีก 7 สถานี คือ สถานีพหลโยธิน 59 (N18) สถานีสายหยุด (N19) สถานีสะพานใหม่ (N20) สถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช (N21) สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ (N22) สถานีแยกคปอ. (N23) และสถานีคูคต (N24) โดยการนำขบวนรถไฟฟ้าวิ่งทดสอบครั้งแรก (First Train In) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย งานโยธา และงานติดตั้งระบบการเดินรถทั้ง 7 สถานีแล้วเสร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
จากนั้นในช่วงตลอดเดือนตุลาคมจะทดสอบเดินรถแบบ Dynamic Test เพื่อทดสอบฟังก์ชั่นการทำงานของระบบขณะเคลื่อนไปบนราง และการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Running) ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเปิดให้บริการประชาชนในเดือนธันวาคม 2563 นี้
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดเดินรถไฟฟ้าในเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุไปยังสถานีปลายทางคูคต ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟฟ้าที่มีความสำคัญของกรุงเทพมหานครโซนเหนือ ผ่านสถานที่ราชการและย่านชุมชนประกอบด้วย ย่านสะพานใหม่ สายหยุด ตลาดยิ่งเจริญ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศ ย่านลำลูกกา และคูคต เป็นทางเลือกให้กับประชาชนให้หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ช่วยลดปริมาณการจราจรที่คับคั่งบนถนนพหลโยธิน นอกจากนี้เมื่อเปิดเดินรถไฟฟ้าในเส้นทางส่วนต่อขยายจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ไปยังสถานี คูคต จะถือเป็นการเปิดให้บริการเดินรถเต็มระบบ จากสถานีคูคตไปจนถึงสถานีเคหะฯ ที่มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 68.25 กิโลเมตร จำนวน 59 สถานีเชื่อมโยง 3 จังหวัด ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยในการเดินทาง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้วย
“กรุงเทพธนาคม” จัดชุดเฉพาะกิจ4ทีม เดลิเวอรี่จัดเก็บขยะปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ทุกวัน เผยขณะนี้มีขยะโควิด-19 จากสถานพยาบาล รวม 12 แห่งแล้ว ยืนยันประสิทธิภาพเตาเผาของบริษัทฯยังสามารถรองรับได้อีกวันละ 10 ตันไม่ให้เกิดปัญหาขยะตกค้าง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนหยุดอยู่บ้าน เว้นระยะห่างทางสังคมตามนโยบายรัฐบาล
“อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
“อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
“กรุงเทพธนาคม” จัดชุดเฉพาะกิจ4ทีม เดลิเวอรี่จัดเก็บขยะปนเปื้
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยว่า จากที่นายกรัฐมนตรีได้ประกา
นายมานิต กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ที่มีผู้ป่ว
นายมานิต กล่าวย้ำด้วยว่า “บริษัทฯได้ร่วมรณรงค์ให้ปร
บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ยังคงมุ่งเน้นภารกิจให้บรรลุเป้าหมายเหมือนเดิม
ในการดำเนินโครงการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ระบบขนส่งมวลชน งานเพื่อสังคมและสาธารณะ
การสื่อสารและโทรคมนาคม ของกรุงเทพมหานคร อย่างต่อเนื่อง
กสทช. ผนึก กทม.-กรุงเทพธนาคมลุยต่อโครงการท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดิน
ดึงเงินกองทุน กทปส. ร่วมลงขัน 2.7 หมื่นล้านบาท
กสทช. ผนึก กทม.-กรุงเทพธนาคมลุยต่อโครงการท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดิน ดึงเงินกองทุน กทปส. ร่วมลงขัน 2.7 หมื่นล้านบาท หวังช่วยซับซิไดซ์ค่าเช่าท่อให้เอกชนจ่ายน้อยลง ย้ำให้กรุงเทพธนาคมบริหาร แต่เก็บค่าเช่าได้เท่าที่ลงขัน ฟากเอกชนโวยใช้เงินกองทุนเก็บค่าเช่าผิดวัตถุประสงค์
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เตรียมนำเสนอโครงการลงทุนท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พิจารณา เนื่องจากก่อนหน้านี้บอร์ดดีอีเอสเคยมีมติให้ กสทช.และ กทม.เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ
กสทช.ดึง กทม.-KT ลงขัน
โครงการนี้ กสทช.จะเป็นผู้ร่วมลงทุนในโครงการนี้ ร่วมกับ กทม.และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) เพื่อช่วยไม่ให้ค่าเช่าที่โอเปอเรเตอร์ผู้เช่าใช้ท่อร้อยสายต้องจ่ายค่าเช่าในราคาแพง และผลักภาระนี้มาสู่ประชาชนด้วยการขึ้นค่าบริการโทรคมนาคมต่าง ๆ เพราะก่อนหน้านี้ กทม.มีหนังสือแจ้งมาว่า ต้องเก็บค่าประกอบการจากโอเปอเรเตอร์ราว 8-9 พันบาท/ท่อกิโลเมตร/เดือน ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับภาระนี้ได้ กสทช.จึงต้องเข้ามาลงทุนร่วมกับ กทม.ด้วย
โดย กสทช.จะใช้เงินลงทุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ซึ่งโอเปอเรเตอร์ผู้รับใบอนุญาตจาก กสทช. จะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนราว 1.75% ของรายได้เข้ากองทุนทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีเงินคงเหลือพร้อมใช้งานได้ราว 4,000 ล้านบาท และจะมีทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นทุกปี
ค่าเช่าถูก “KT” บริหาร
“ม.44 เคยมีคำสั่งให้เพิ่มวัตถุประสงค์ของกองทุน กทปส. ให้สามารถใช้เงินสนับสนุนโครงการที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการสนับสนุนเพื่อประโยชน์สาธารณะทางโทรคมนาคมก็ทำได้หมด ฉะนั้นการลงทุนท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดิน ก็สามารถใช้เงินกองทุนได้ แต่ กสทช.จะไปออกค่าเช่าให้เอกชนโดยตรงเลยไม่ได้ จึงมองไปที่การจะเข้าไปลงทุนเอง เพราะทำทีเดียวจบ ในระยะยาวดีกว่า ถ้าไม่ทำแบบนี้โอเปอเรเตอร์ก็ไม่เอาสายลงใต้ดิน เพราะต้นทุนการนำสายสื่อสารลงใต้ดินสูงกว่า 9 พันบาท/เดือน ขณะที่พาดสายบนเสาจ่ายแค่พันกว่าบาท”
การลงทุนท่อร้อยสาย กทม. เป็นผู้ได้รับประโยชน์ส่วนหนึ่ง เพราะประหยัดงบประมาณในการบำรุงรักษาบริเวณที่พาดสายสื่อสาร ฉะนั้น กทม.ต้องลงมาร่วมลงทุนด้วย ต้องมีการประเมินสัดส่วนประโยชน์ที่แต่ละคนจะได้ เพื่อกำหนดเม็ดเงินลงทุนของแต่ละฝ่าย ซึ่งจะมี 3 ฝ่าย ได้แก่ กสทช. กทม. และ KT ที่จะเป็นผู้บริหารท่อร้อยสาย เพื่อให้ค่าเช่าที่โอเปอเรเตอร์ต้องถูกลง
ชงขออนุมัติบอร์ดดีอี
“เอกชนยังต้องจ่ายค่าเช่าอยู่ แต่จะตัดสัดส่วนการลงทุนที่ กสทช. ลงทุนเพื่อซับซิไดซ์โอเปอเรเตอร์ออกไป” KT จะเก็บค่าบริการได้เฉพาะเท่าที่เป็นสัดส่วนที่ตัวเองลงทุนไป จะไม่สามารถเอาค่าใช้จ่ายในการลงทุนมาคำนวณค่าเช่าได้ทั้งหมด เพราะ กสทช.ไม่ได้ลงทุนเพื่อมุ่งหากำไร แต่ต้องการไม่ให้โอเปอเรเตอร์ต้องจ่ายค่าเช่าแพง และจะส่งผลให้ต้องเก็บค่าบริการจากประชาชนผู้ใช้บริการแพงขึ้นไปด้วย สมมุติว่า ประเมินคร่าว ๆ แล้ว KT ลงทุนในโครงการนี้ 30% ก็จะเท่ากับว่า โอเปอเรเตอร์จ่ายค่าเช่าแค่ 30% เท่านั้น ส่วนที่ กทม.กับ กสทช.ลงทุนไม่ต้องนำไปคิดเป็นค่าเช่า”
โดยจากนี้ กสทช.จะนำเสนอโครงการนี้ให้บอร์ดดีอีพิจารณาเร็วที่สุด หลังจากนั้นจะมีการตั้งคณะทำงานประเมินโครงการเพื่อตีมูลค่าที่ทั้ง กสทช. กทม. และ KT ต้องลงทุน ก่อนจะเริ่มลงมือสร้าง ซึ่งเชื่อว่า หากโครงการได้รับอนุมัติแล้ว ไม่เกิน 2 ปีสายสื่อสารทั่วกรุงเทพฯก็จะถูกนำลงใต้ดินทั้งหมด
ชี้วินวินกับทุกฝ่าย
“เงินกองทุน กทปส. มาจากเงินที่บรรดาโอเปอเรเตอร์ผู้รับใบอนุญาตจาก กสทช. จ่ายสมทบเข้ามาทุกปี การที่ กสทช.มีแผนที่จะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของโอเปอเรเตอร์เอง ซึ่งจะส่งผลต่อประโยชน์สาธารณะด้วย ไม่ว่าประชาชนจะไม่ต้องจ่ายค่าใช้บริการแพงบ้านเมืองสวยงามไม่มีสายพาดรกรุงรัง เชื่อว่า ไม่น่าจะมีปัญหา ยิ่งจะทำให้บรรดาโอเปอเรเตอร์ยินดีที่จะจ่ายเงินสมทบเข้ามามากขึ้น”
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการโทรคมนาคม 11 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ลงนามสัญญาบันทึกความร่วมมือการใช้ท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดินของ บมจ.ทีโอทีไปแล้วนั้น เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ถ้าทีโอทีมีท่อร้อยสายในพื้นที่ใดแล้ว เป็นเรื่องดีที่ผู้ประกอบการจะนำสายสื่อสารลงใต้ดินเลย แต่ยังมีหลายพื้นที่ที่ยังไม่มีท่อร้อยสาย ซึ่งทีโอทีก็ไม่สามารถขุดสร้างใหม่ได้อยู่ดี
สำหรับท่อร้อยสายใต้ดินของทีโอที ปัจจุบันมีอยู่ 33,250 ท่อกิโลเมตรในเขตกรุงเทพฯ และ 5,485 ท่อกิโลเมตรในต่างจังหวัด มีพื้นที่ว่างให้โอเปอเรเตอร์รายอื่นเช่าใช้ได้ 20%
เอกชนติงล้วงเงินกองทุน กทปส.
ด้านแหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคม เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า รู้สึกแปลกใจที่ กสทช.จะใช้เงินกองทุน กทปส.มาลงทุนท่อร้อยสายลงใต้ดิน เพราะก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการเคยรวมตัวกันเพื่อเสนอโครงการลงทุนทำท่อร้อยสายเพื่อขอให้ กทปส.สนับสนุนก็ถูกปฏิเสธ โดยระบุว่า เงินกองทุนต้องไม่นำไปใช้เพื่อแสวงหารายได้เชิงพาณิชย์ ซึ่งการทำท่อร้อยสายจะต้องมีการเก็บค่าเช่า ไม่ได้ให้ใช้งานฟรี จึงไม่เข้าข่ายการใช้เงินของกองทุน
“จะอ้างว่า ม.44 มาแก้ไขวัตถุประสงค์ใช้เงินแล้ว ทำให้เข้าเกณฑ์ ก็เป็นคำสั่งที่ออกมาพักหนึ่งแล้ว และมีหลายโครงการถูกปฏิเสธเพราะติดเรื่องแสวงหารายได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลางปี 2562 กทม.มีแนวคิดริเริ่มโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินในพื้นที่ กทม. ระยะทาง 2,450 กม. วงเงินก่อสร้างไม่เกิน 27,000 ล้านบาท เพื่อจัดระเบียบเมืองให้สวยงามตามนโยบายรัฐบาล ซึ่ง กทม.ได้มอบให้ KT ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ กทม.รับช่วงบริหารโครงข่าย แต่ก็เงียบหายไปหลังมีกระแสโจมตีและตั้งข้อสังเกตว่าอาจเอื้อให้กับเอกชนบางราย
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
ข้อมูลเว็บไซต์ : https://www.prachachat.net/ict/news-412312
คณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เข้าอวยพร-รับพรปีใหม่ จากผู้ว่าฯอัศวิน
คณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เข้าอวยพร-รับพรปีใหม่ จากผู้ว่าฯอัศวิน
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2563 เวลา 09.30น. นายปิยะ พูดคล่อง ประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เข้าอวยพรและรับพรปีใหม่ จาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2563
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ขอบคุณผู้บริหารและพนักงาน บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงานมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี พร้อมอวยพรให้มีแต่ความสุขสมหวังในชีวิต คิดสิ่งใดขอให้สมหวังตามความปรารถนา และมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพื่อให้สามารถปฎิบัติงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ